www.youtube.com/watch?v=kltmejlM8kU&ab_channel=JoBloMovieClips

กลายเป็นว่าปี 2021 เป็นปีที่เต็มไปด้วยหนังมิวสิคัลร้องขับร้องบนหน้าจออยู่หลายเรื่องอย่างยิ่ง มีทั้งยังปัง มีทั้งยังแป้ก ผสมปนเปกันไปในปีที่วัววิด-19 ก็ยังคงก่อกวนอยู่ รวมทั้งมาถึงเรื่องในที่สุดส่งท้ายปีนี้กับการปัดฝุ่นเล่าใหม่ ร้องเรียงใหม่ ของอดีตกาลหนังคลาสสิก ผู้ครอบครองรางวัลออสการ์ 10 ตัวในปี 1961 อย่าง “West Side Story” หนังที่โดนจับประเคนเอาบนหิ้งมายาวนาน 60 ปีเต็ม รวมทั้งในวันนี้ก็มีผู้กล้านำลงมาทำใหม่ รวมทั้งฉบับเปลี่ยนแปลงคราวนี้ก็ให้รสที่กลมกล่อมละมุนละไมพอได้

West Side Story ดัดแปลงแก้ไขมาจากฉบับละครมิวสิคัลในปี 1957 ที่ว่าด้วยเรื่องราวความรักรวมทั้งความไม่ลงรอยกันที่เกิดขึ้นในมหานครนิวยอร์กในตอนที่เนืองแน่นไปด้วยเหล่าผู้ลี้ภัย เปลี่ยนเป็นการฟาดฟันกันระหว่าง 2 กลุ่มวัยรุ่นหุนหันพลันแล่น กลุ่มเจ็ตต์ ชาวผิวขาวเจ้าถิ่นเดิม กับ กลุ่มชาร์ค คนผิวสีผู้หลบภัยจากลาตินอเมริกัน ที่เปลี่ยนมาเป็นรอยแผลและก็เรื่องโศกเศร้าที่สังคมที่จะต้องจำ

อันดับแรกจำต้องออกสตาร์ทก่อนเลยว่า คนเขียนไม่เคยมีประสบการณ์ดูหนังเวอร์ชั่นปี 1961 มาก่อน เพียงเคยพล็อตเรื่องเกี่ยวกับละครเวทีหัวข้อนี้มาบ้างกระจาย ด้วยเหตุดังกล่าวในคราวนี้ถือได้ว่าเป็นการเข้าไปเสพ West Side Story แบบมุ่งมั่นเป็นครั้งแรก รวมทั้งทำให้พบว่าตัวเรื่องก็มีโครงเรื่องอิงมาจากคำกลอนรักในตำนาน โรมิโอ กับ จูเลียต เป็นแกนหลักดังที่เกริ่นเอาไว้จริงๆแต่ว่าได้แต่งใหม่กับยุคสังคมก็เพียงเท่านั้นเอง

ถ้าหากจะว่าไปตามช่วงก็จำต้องเห็นด้วยว่า West Side Story มีพล็อตเรื่องรวมทั้งรายละเอียดที่ออกจะเชยจริงๆแต่ว่าแม้ว่าทดลองตัดประเด็นนั้นออกไปและก็ซึบดูดซับกับความเป็นพีเรียดแล้วก็วัฒนธรรมต่างๆที่หนังใส่เข้ามา ก็ถือว่าเป็นหนังที่มีจังหวะที่พอดีประจวบเหมาะมากมายจริงๆโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อหนังได้มาอยู่ในมือของบิดามดฮอลลิวูด “สตีเวน สปีลเบิร์ก” ด้วยแล้ว ส่วนประกอบงานสร้างต่างๆยิ่งเข้ามาช่วยเติมเต็มแล้วก็ทิศเหนืออยรั่วแสนเชยของหนัง ให้เปลี่ยนมาเป็นอรรถรสที่กลมกล่อมละมุนละไมไปเลย

พวกเราอาจจะต้องกล่าวว่างานส่วนประกอบงานสร้างรวมทั้งวิสัยทัศน์สำหรับในการร้อยเรียงเรื่องราวคลาสสิกขึ้นมาใหม่ในแบบอย่าง สตีเวน สปีลเบิร์ก ทำออกมาได้น่าดีเลิศจริงๆส่วนตัวแล้วรู้สึกประทับมากมายๆในตอนองก์ที่ 1 กับ องก์ที่ 2 ของเรื่อง หรือจะบอกกล้วยๆก็คือตอนครึ่งแรกของหนัง มองเห็นได้ถึงความแจ่มกระจ่างและก็จัดจ้าสำหรับการถ่ายทอดเรื่องราว ใส่เนื้อหาต่างๆเข้ามาได้อย่างชัดและก็ลึกซึ้ง

รู้สึกเอ็นหน้าจอยตั้งแต่ฉากโหมโรงกับการชี้แนะพื้นที่เขตแดนรวมทั้งการขัดกันระหว่าง เจ็ตต์ กับ ชาร์ค หากว่าเพลงมิวสิคัลในหนังจะยังมีหลายๆเพลงร้องตามยาก แม้กระนั้นเซ็ตติ้งรวมทั้งวางแบบอิริยาบถเต้นต่างๆทำออกมาได้เต็มกำลังรวมทั้งเป็นเนื้อเดียวกับเรื่องราว ที่พอกพูนความสนุกสนานร่าเริงรวมทั้งอรรถรสของผู้ชม อีกฉากที่จะจำเป็นต้องยกนิ้วให้ก็คงเป็นไฮไลต์สำคัญ ฉากเต้นรำในโรงยิม ฉากสำคัญที่พระนางเจอกันเป็นคราวนี้ ที่ทำให้มีความรู้สึกขนลุกกับการวางแบบฉากออกมาได้น่าประทับใจรวมทั้งบิ้วท์อารมณ์ผู้ชมได้อย่างกัดรับประทาน

แต่ว่าต่อให้แอบรู้สึกในตอนช่วงหลังรวมทั้งองค์ด้านหลังๆของหนังค่อนข้างจะย้วยยานเกินความจำเป็นสักนิด ซ้ำยังทำฉากไคลแม็กซ์สำคัญได้ออกมาไม่ค่อยประทับใจได้สักเท่าไหร่ แต่ว่าโดยในรูปภาพรวมแล้ว West Side Story ก็นับว่าอยู่เกณฑ์ดีตามมาตรฐาน หนังบางครั้งอาจจะไม่ใช่หนังมิวสิคัลระดับเพอร์เฟ็คในด้านรายละเอียดสักเท่าไหร่ แต่ว่าแม้ว่ากันถึงงานสร้างแล้ว ก็คงจะจำต้องชูให้จริงๆ

ส่วนด้านการแสดงของแคสติ้งฉบับรีเมคนี้ สปอตไลต์ได้จ้องเจิดจริสอยู่ที่สาวคนใหม่ “ราเชล ซีสหายร์” ตามคำร่ำลือจริงๆคุณเป็นนางเอกที่เครื่องหน้าคมคายสไตล์สาวลาติน แล้วก็กล้องถ่ายรูปก็รักด้ามจับบริเวณใบหน้าสวยๆมากมายก่ายกอง เมื่อเอามาผสมกับแอคติ้งในเรื่องแรกที่น่าทึ่ง กับความชำนาญการร้องเพลงและก็เสียงอันเพราะ พูดได้ว่า..น้องเฉิดฉันที่สุดในหนังจริงๆ

ความรุ่งเรืองของนางเอกบางครั้งอาจจะพลอยทำให้ผู้แสดงนำชายของพวกเรา “แอนเซล เอลกอร์ธ” โดนรัศมีบังไปหน่อย ออร่าไม่ปังสักเท่าไหร่ แม้กระนั้นเขาก็ยังคงถ่ายทอดอินเนอร์นักแสดงออกมาได้มือโปรดีเหมือนเคย อีกผู้ที่เปล่งแสงไม่ได้แตกต่างกับนางเอกก็คือ “อาเรียนา เดโบซ” พูดได้ว่า…น้อยแต่ว่ามากมาย การแสดงของคุณหลุดออกมาจากความถนัดแล้วก็ความรู้ความเข้าใจล้วนๆและก็หนังประเด็นนี้กับบทนี้ก็เป็นอีกหนึ่งนักแสดงที่เกิดสุดๆ

ดังที่กล่าวไว้ข้างต้นแล้วว่า เพลงประกอบของ West Side Story บางทีอาจจะร้องคลอตามได้ไม่กี่เพลง แม้กระนั้นโดยรวมก็นับว่ามีเพลงที่ติดอยู่หลายเพลง แต่ว่าที่ประทับใจมากที่สุดก็น่าจะจำต้องชูให้เพลงไฮไลต์ของเรื่อง อย่าง “Balcony Scene (Tonight)” ที่เป็นการขับร้องแข่งขันคานหามระหว่างคู่พระนาง ที่ถือได้ว่าเป็นฉากที่ดีเยี่ยมที่สุดของหนังประเด็นนี้เลยก็ว่าได้ ทั้งยังยังมีเพลง “America”, “Maria” หรือ “One Hand, One Heart” ที่ก็ถ่ายทอดรวมทั้งแทรกสอดรายละเอียดก้าวหน้า หนังออนไลน์ 2021

โดยสรุปแล้ว สำหรับเวอร์ชั่นปี 2021 ของ West Side Story นั้น ก็นับว่าสอบได้อยู่ แม้ว่าจะยังไม่เคยมองฉบับก่อนและไม่สามารถนำไปเปรียบ แต่ว่าส่วนใดส่วนหนึ่งก็จะต้องชูความดีความชอบให้กับวิสัยทัศน์สำหรับเพื่อการถ่ายทอดเรื่องราวของ สตีเวน สปีลเบิร์ก จริงๆเนื่องจากนี่เป็นหนังที่ผู้ชมส่วนมากทราบเรื่องราวกันบ้างแล้ว ซ้ำเค้าเรื่องยังออกจะเชย แม้กระนั้นส่วนประกอบต่างๆก็ทำออกมาก้าวหน้า

ประกอบกับข้อความสำคัญของหนังก็ยังคงเวิร์กกับยุคนี้ ทั้งยังความแตกต่างในสังคมรวมทั้งเชื้อชาติที่ยังประสบพบเห็นได้อยู่ในขณะนี้ ถึงแม้ตัวหนังจะมีความยาวถึง 2 ชั่วโมงเศษ รู้สึกนานเกินความจำเป็นสักหน่อย แม้กระนั้นโดยรวมก็นับว่ายังออกจะกลมกล่อมละมุนละไมดี แล้วก็เมื่อรวมกับการแสดงอันเฉิดฉันของดาวรุ่ง ราเชล ซีสหายร์ ที่บอกเลยว่า…น้องยังไปได้อีกไกลแน่ๆ