ภายหลังที่ชอบหมกมุ่สำหรับการทำหนังด้วยวิธีการที่ประณีต “ริชาร์ด ลินเคลเตอร์” ผู้กำกับที่ได้สมญานามว่าเป็น ‘เจ้าพ่อหนัง Coming-Of Age ที่กลับมาอีกรอบด้วยหนังแนวที่เขาถนัดอย่างดีเยี่ยมใน “Apollo 10½: A Space Age Childhood” (อะพอลโล 10½: วัยเด็กสมัยอวกาศ) ที่ยังคงมากับคอนเซ็ปต์การเจริญเติบโตในตอนวัยเด็ก ที่ครั้งที่ปรับต้นแบบมาเป็นหนังแอนิเมชั่นด้วยเคล็ดลับโรโตสวัวป ที่ซ่อนเร้นไปด้วยเรื่องราวรวมทั้งนาทีประวัติศาสตร์ของโลก
Apollo 10 ½: A Space Age Childhood เล่าราวของการลงหยุดบนพระจันทร์เป็นครั้งแรก เมื่อกลางปี 1969 จากสองมุมมองที่มีความเกี่ยวข้องกัน พวกเราจะได้เห็นภาพการบรรลุเป้าหมายครั้งยิ่งใหญ่นี้ผ่านสายตาของนักบินอวกาศกับศูนย์ควบคุมภารกิจ และก็เด็กคนหนึ่งที่เติบโตมาในเมืององค์การอนามัยโลกสตัน เมืองเทกซัส ผู้มีความต้องการเกี่ยวกับเรื่องราวในอวกาศ
และก็นี่ก็แปลงเป็นอีกหนึ่งผลงานอันงามของ ริชาร์ด ลินเคลเตอร์ อีกหัวข้อ เขาสร้างผลงานชิ้นนี้มาจากบทหนังที่มาจากแนวความคิดแล้วก็ไอเดียของตนที่จับเอามาจากประสบการณ์ในอดีตกาลที่เป็นเด็กเติบโตมาจากเมืองฮุสตัน เมืองเท็กซัส ที่ไตร่ตรองออกมาได้อย่างแยบยลพอได้ จากข้อมูลทราบดีว่าเขาผุดไอเดียของหนังหัวข้อนี้มาเมื่อแทบ 20 ปีที่ผ่านมา แม้กระนั้นยังไม่มีจังหวะได้สืบต่อ เมื่อสบโอกาสที่ดีเขาก็เลยเริ่มเขียนบทอย่างเป็นจริงเป็นจังและก็ฝ่างานโดยทันที
แต่ก่อนนั้น ริชาร์ด ลินเคลเตอร์ ตั้งมั่นจะสร้างภาพยนตร์ประเด็นนี้เป็นหนังฉบับคนแสดงตามเดิม แม้กระนั้นปรากฏว่าในเวลาถัดมาเขาได้เปลี่ยนแปลงแผนรวมทั้งตกลงใจทำออกมาเป็นแบบอย่างหนังการ์ตูน ที่ได้รับแรงผลักดันมาจากพวกการ์ตูนตอนเช้าวันเสาร์ที่พวกเขาเคยมองตอนเด็กๆด้วยการใช้วิธีโรโตสวัวป (rotoscoping) เป็นการวาดรูปตามต้นฉบับฟิล์มถ่ายรูปต่อเฟรมเพื่อสร้างความสมจริงสมจัง โดยหนังเล็กน้อยมีการแสดงในต้นแบบไลฟ์แอคชั่นเอาไว้
การเล่าเรื่องของหนัง Apollo 10 ½: A Space Age Childhood เปี่ยมล้นไปด้วยเสน่ห์ที่เข้าถึงได้อย่างง่ายๆเลย ด้วยเหตุว่าคุณจะเชื่อตามไปกับเรื่องเล่าในอดีตกาลรวมทั้งเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ต่างๆที่เคยเกิดขึ้นในตอนสมัยปี 1960s จำต้องเห็นด้วยเลยว่าหนังหัวข้อนี้มีการเกริ่นที่ค่อนข้างจะยาวยืด แม้กระนั้นเปลี่ยนเป็นจุดที่น่าดึงดูดและไม่น่ารำคาญเลย หนังใส่เกร็ดนิดหน่อยเกี่ยวกับการดำรงชีวิตในสังคมสมัยนั้นเข้ามาได้อย่างพอดี ทำให้ผู้ชมเพลิดเพลินไปกับการสัมผัสเรื่องเล่าในอดีตกาลผ่านไปครึ่งเรื่องโดยไม่ทันรู้ตัว
แน่ๆว่าจุดเด่นในหนังของ ริชาร์ด ลินเคลเตอร์ ก็คงเป็นกรรมวิธีการเล่าที่ชอบใส่กิมไม่กที่น่าดึงดูดอยู่ตลอด แล้วก็ในประเด็นนี้เขาบางครั้งอาจจะมิได้ใช้เวลาเป็นทศวรรษสำหรับในการสร้างภาพยนตร์แล้วก็เปิดเผยให้มองเห็นความก้าวหน้าของนักแสดงที่เขาชอบทำในหนังตนเอง แต่ว่าผู้กำกับได้ประดิษฐ์เสน่ห์สำหรับการเล่าผ่านสายตาของเด็กผู้ชายคนหนึ่ง ที่เต็มไปด้วยความคลั่งไคล้ในวิทยาศาสตร์อวกาศ ร้อยเรียงออกมาเกิดเรื่องเล่าความฝันผสมกับประวัติศาสตร์ที่เกิดขึ้นจริงอย่างพอดี
แม้ว่าจะเป็นแอนิเมชั่นแม้กระนั้นพวกเราแอบมีความคิดเห็นว่าดาราหนังชั้นหนึ่งในหัวข้อนี้อยู่คนจำนวนไม่น้อยเชียว ไม่ว่าจะเป็น “แซคารี ลีวาย“, “เกลน โพเวลล์”, “หน้าจอช วิกกิ้นส์”, “อี เอ็ดดี้, “ใบเสร็จรับเงิน ไวซ์” และก็ดาราหนังเด็กคนใหม่ “ไมโล รอ” แล้วก็ “แจ็ค กางล็ก” ที่มานำเสนอเป็นเสียงของผู้แสดงเด็กในวัยผู้ใหญ่ที่กลมกล่อมละมุนละไมไปทั้งยังเรื่องอีกด้วย
อาจจะจำเป็นต้องพูดว่าตลอดเวลาชั่วโมงเศษๆของ Apollo 10 ½: A Space Age Childhood ราวกับหนังได้พาพวกเราย้อนกลับไปเรียกร้องหาวันวานที่อดีตกาลอีกรอบอย่างน่าอัศจรรย์ จำเป็นต้องขอบคุณมากการใส่เนื้อหาและก็เก็บเล็กเก็บน้อยในเศษเสี้ยวของวัฒนธรรมในสมัยนั้นอย่างแท้จริงเข้ามาไว้ภายในเรื่องแบบคนทราบจริง ทำให้หนังหัวข้อนี้เป็นแอนิเมชั่นที่เล่าได้สนุกสนานแล้วก็เพลิดเพลินเจริญใจตามได้ตลอดทั้งเรื่อง
เปลี่ยนไปเป็นว่าจากหนังที่เปิดมองแบบที่มิได้มุ่งหวังอะไรก็แล้วแต่ทั้งมวล เปลี่ยนมาเป็นหนังแอนิเมชั่นเรื่องแรกของปีนี้ซึ่งสามารถชนะใจไปเต็มๆจะต้องชื่นชมในแนวทางการสร้าง แล้วก็ไอเดียสำหรับการเล่าที่ออกมาได้อย่างประทับใจ Apollo 10 ½: A Space Age Childhood ก็เลยแอบเป็นหนังที่สร้างความเซอร์ไพรส์ให้เบาๆแล้วก็นับได้ว่าเป็นหนังที่มอบผลสรุปคืนมาได้เกินกว่าที่คาดการณ์เอาไว้ไม่น้อยเลย...