ถึงคิวของหนังที่ติดชื่อมาก็ไม่ต้องนึกถึงอะไรเลย เนื่องจากว่ามันเป็นหนังเจ้าฟ้าหญิง แม้กระนั้นนี่ไม่ใช่หนังเจ้าฟ้าหญิงที่เคยชินกันสักเท่าไหร่ เนื่องจากมันเป็น..แม่หญิงขาบู๊ ใน “The Princess” หนังที่้ใส่เรื่องราวในเทพนิยายสูตรสำเร็จเดิมๆมาแต่งใหม่ด้วยการใส่ร้ายแสบ ความเจ็บปวด และก็ความซ่าส์ ของเจ้าฟ้าหญิงที่ต่างจากเจ้าฟ้าหญิงที่เคยได้เห็นกัน ด้วยเหตุว่าคุณแปลงเป็นคนสู้คน เตะต่อยเยี่ยม แล้วก็ยังคงใช้กระบี่ได้คล่องแคล่วปร๋อ!
The Princess เกิดเรื่องราวขององค์หญิงอาณาจักรแห่งหนึ่ง ที่ได้ตื่นฟื้นขึ้นมาพบว่าตนเองถูกผูกและก็จองจำตัวเอาไว้บนหอสังเกตการณ์สูงบนวังของตน นางเบาๆเก็บรวบรวมสติแล้วก็หวนคิดว่ากำเนิดอะไรขึ้นก่อนหน้าที่ ก่อนที่จะเจอหน้ากับคนร้ายเป็นผู้ชายรูปร่างสูงใหญ่ที่ถั่งโถมประมือกับดารานางแบบไม่หยุดหย่อน คนกลุ่มนี้เป็นทรราชจุดมุ่งหมายจะเข้ามาบุกยึดอำนาจรวมทั้งบัลลังก์ของเสด็จบิดาขององค์หญิง ด้วยเหตุนี้นางจะเป็นเพียงแต่ความมุ่งมาดเดียวที่จะกู้แผ่นดินนี้ ด้วยพลังแล้วก็ลีลาท่าทางการต่อสู้ที่ใครๆก็ประเมินเอาไว้ต่ำเกินความจำเป็น
บอกเลยว่าหนังเรื่องคงจะถูกผลิตขึ้นมาเพื่อเปลี่ยนแปลงแวดวงเจ้าฟ้าหญิงดิสนีย์สวยสดงดงามต่างๆอย่างไม่ต้องสงสัย เนื่องจากแทนที่พวกเราจะได้สัมผัสกับความอ่อนช้อยขององค์หญิงในต้นแบบขับร้องร้อง แล้วก็พูดคุยกับสรรพสัตว์ มันถูกแทนที่ด้วยฉากบู๊ระห่ำและก็ซีนการต่อสู้แบบดุดันนับจากนาทีแรกของหนังที่เริ่มเริ่มขึ้นอย่างไม่รีรออะไรทั้งหมด นี่เป็นการดูแลหนังฮอลลิวูดของผู้กำกับชายหนุ่มชาวเวียดนาม “เล-แวนเกียต” ที่บางทีก็อาจจะเคยมีประสบการณ์ทำภาพยนตร์ฝรั่งมาบ้าง แต่ว่าก็เป็นเพียงแค่หนังทุนต่ำรวมทั้งหนังเกรดบีเป็นส่วนมาก
และก็เมื่อเขาได้มาจับงานหนังระดับสตูดิโอแล้ว ก็อาจจะจำต้องพูดว่า…ก็เป็นไปตามน้ำ งานชิ้นนี้แทบไม่มีอะไรหวือหวาใดๆก็ตามเว้นแต่ซีนแอคชั่นรวมทั้งการออกแบบฉากสตันท์ต่างๆจะว่าเป็นหนังขยะก็ไม่สามารถพูดได้เต็มปาก เนื่องจากว่าจะว่าไปแล้ว The Princess ก็สามารถมอบความเพลิดเพลินรวมทั้งความเพลิดเพลินให้กับผู้ชมเจริญเรื่อยตลอดหนังทั้งยังหัวข้อนี้ เพียงส่วนประกอบโดยรวมของหนังนั้น ค่อนจะแห้งเหือดรวมทั้งก๊องกลุ่มไปสักนิดสักหน่อย
The Princess มากับบทหนังที่เกือบจะไม่มีอะไรเลย เค้าเรื่องถือมาเล่ามีแค่เพียงเศษปลายนิ้วเพียงแค่นั้น แม้กระนั้นก็สามารถถือนำเอามาขยายรวมทั้งเล่าราวเป็นตุเป็นตะได้กว่า 90 นาที เต็มไปด้วยน้ำล้วนๆแทบหาเนื้อไม่พบ เป็นให้อารมณ์เหมาะสมกับการเป็นหนังหน้าจอเล็ก จำพวกหนังแผ่นหรือหนังออนไลน์อย่างดีเยี่ยม เนื่องจากว่าแน่ๆว่ามองจากประสิทธิภาพโดยรวมแล้วนั้น หนังไม่เหมาะสมที่จะเอาไปขึ้นหน้าจอใหญ่ให้เสียหน้าเป็นอย่างยิ่ง
หากว่าทางพวกเราจะเกริ่นวิภาควิจารณ์ได้แสบสันต์ขนาดนั้น แม้กระนั้นมันกลับมิได้ทำให้เกิดความรู้สึกชิงชังหนังประเด็นนี้ ด้วยเหตุว่า The Princess มีส่วนประกอบประเด็นการวางแบบฉากสตันท์และก็ใส่ซีนบู๊ต่อสู้เข้ามาได้อย่างดุดันเผ็ดร้อน เป็นหนังสามารถลากยาวซีนบู๊ได้เกือบครึ่งเรื่องโดยที่ไม่มีรายละเอียดอะไรก็แล้วแต่ได้อย่างน่าทึ่ง ถึงแม้มันจะอยู่บนรากฐานของความเป็นแอคชั่นแฟนตาซี มีความเวอวังและไม่มีเหตุผลอยู่ก็ตาม แต่ว่ามันกลับให้ความบันเทิงได้อย่างดีเยี่ยม